ค่าลดหย่อนภาษี
1.ทั่วไป▾
1.1ส่วนตัว
1.2คู่สมรส
1.3บุตร
1.4บิดามารดา
1.5ฝากครรภ์-คลอดบุตร
1.6อุปการะผู้พิการหรือทุพพลภาพ
1.7ดอกเบี้ยกู้ซื้อที่อยู่อาศัย
1.8ผู้สูงอายุและผู้พิการ
2.ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ▾
2.1เงินสะสมประกันสังคม
2.2เบี้ยประกันชีวิต
2.3เบี้ยประกันสุขภาพ
2.4เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
2.5เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
3.การออมและลงทุน▾
3.1กองทุนรวมเพื่อการออม(SSF)
3.2กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)
3.3กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
3.4กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
3.5กองทุนการออมแห่งชาติ
3.6เงินลงทุนธุรกิจStartup
4.เงินบริจาค▾
4.1เงินบริจาคทั่วไป
4.2เงินบริจาคเพื่อการศึกษา/โรงพยาบาลรัฐ/การกีฬา/การพัฒนาสังคม
4.3เงินบริจาคพรรคการเมือง
5.รายการพิเศษ▾
ค่าลดหย่อนลงทุนธุรกิจStartUp
หัวข้อ :
เงินที่ลงทุนในธุรกิจStartUp สามารถนำมาใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีได้ โดยกฎหมายกำหนดให้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่ลงทุนจริง สูงสุดไม่เกิน100,000บาท โดยต้องเป็นการลงทุนในธุรกิจStartupตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เท่านั้น
สำหรับค่าลดหย่อนประเภทอื่นๆสามารถศึกษาได้ที่ค่าลดหย่อน
หลักฐาน
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยต้องมีการระบุชื่อผู้ถือหุ้น และวันที่ลงหุ้นหรือลงทุนหรือเพิ่มทุนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
- หนังสือรับรองการจ่ายเงินเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
เงื่อนไข
การที่จะใช้สิทธิจากเงินลงทุนธุรกิจStartUp จะต้องตรงตามเกณฑ์ต่อไปนี้ครบทุกข้อ
- ต้องเป็นการลงทุนในธุรกิจStartupตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เท่านั้น
- ต้องถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่น้อยกว่า 2 ปีต่อเนื่องกัน นับแต่วันที่ลงทุนเว้นแต่ทุพพลภาพหรือตาย
- ต้องลงทุนในเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลของไทย ที่จดทะเบียนจัดตั้งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวต้องผ่านการเป็นธุรกิจ Startup ที่ได้รับการรับรองจาก สวทช. (สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) แล้วว่าได้ประกอบกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย
- ธุรกิจ Startup นั้นมีรายได้จากการขายสินค้าหรือการให้บริการของกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือรายได้เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันไม่น้อยกว่า 80% ของรายได้ทั้งหมด
- ทุนจดทะเบียนที่ชําระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทใน รอบระยะเวลาบัญชีที่คุณลงทุนในธุรกิจ Startup นั้น
อุตสาหกรรมเป้าหมายของ สวทช.
กิจการ Startup ที่อยู่ในเกณฑ์ลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีได้จะต้องอยู่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของ สวทช. ดังนี้
- อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร
- อุตสาหกรรมเพื่อประหยัดพลังงาน ผลิตพลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด
- อุตสาหกรรมฐานเทคโนโลยีชีวภาพ
- อุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุข
- อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมบริการ และอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
- อุตสาหกรรมวัสดุก้าวหน้า
- อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และเครื่องประดับ
- อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และบริการสารสนเทศ
- อุตสาหกรรมฐานการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม หรืออุตสาหกรรมใหม่
แหล่งที่มา : มาตรา 47(1)(ซ) ประมวลรัษฎากร,กฎกระทรวง ฉบับที่ 337 (พ.ศ. 2561), ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 330) พ.ศ. 2561