กลยุทธ์การลงทุนตลาดหุ้นไทย ประจำเดือนกุมภาพันธ์2563 : COVID-19

Written By Kasidit Tungswutdirut, AFPT

Key Takeaways :

จีนปิดตายเมืองอู่ฮั่น เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสโคโรน่า ในเบื้องต้นเราประเมินว่าผลกระทบที่เกิดขึ้น จะเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น จึงเป็นโอกาสการเข้าลงทุนระยะยาว

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนมกราคม 2563 ดัชนี SET Indexปรับตัวลงจากระดับ 1,579.84จุด มาปิดที่ระดับ1,514.14 จุด คิดเป็นการปรับตัวลง -4.2% โดยSET Indexปรับตัวลดลงตลอดทั้งเดือนมกราคมจากปัจจัยกดดันหลักต่างประเทศ คือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน และ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า นอกจากนั้นยังได้รับปัจจัยเชิงลบภายในประเทศ คือ ความล่าช้าของ พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563ของภาครัฐ

โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุด ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการเกษตร +7.8% กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ +2.7% และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม +1.8% ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุด ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการ -16.5% กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -14.4% และกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ -10.8% โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายหุ้นไทยสุทธิ 17,302 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 12,341 ล้านบาท

สหรัฐส่งโดรนสังหารนายพลอิหร่าน

สหรัฐฯเปิดศึกต้นปี จัดโดรนสังหารโหดนายพลอิหร่าน

ในช่วงเช้าวันที่ 3 มกราคม 2563 สหรัฐฯได้สั่งการใช้โดรนโจมตีขบวนรถของนายพล กอเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่านเสียชีวิต ทางฝั่งอิหร่านจึงตอบโต้โดยการยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกถล่มฐานทัพอากาศของสหรัฐฯ ในอิรัก ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดความวิตกกังวลแก่นักลงทุน จึงเทขายหุ้นออกมาในช่วงสั้น(Panic Sell) ก่อนที่ภายหลังสหรัฐฯ เลือกที่จะตอบโต้อิหร่านผ่านการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจแทนการใช้ความรุนแรง ความกังวลด้าน Geo-Political Risk จึงบรรเทาลงในระยะสั้น

(ที่มาของสาเหตุการปลิดชีพนายพลอิหร่าน สามารถดูได้จาก:https://www.allfinn.net/70year_iran_usa/)

ไวรัสโคโรน่าระบาด

จีนปิดตายเมืองอู่ฮั่น เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสโคโรน่า

ในช่วงปลายเดือนมกราคม2563 เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ ชื่ออย่างเป็นทางการคือ Covid-19 ซึ่งย่อมาจาก “coronavirus disease starting in 2019" โดยข้อมูลจากCNN ระบุว่าล่าสุดวันที่12กุมภาพันธ์ มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก44,138ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิต1,107ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยู่ในประเทศจีน ซึ่งองค์การอนามัยโลก(WHO)ได้ประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก ทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศปิดเมืองอู่ฮั่นในมณฑลหูเป่ย และสั่งให้บริษัททัวร์ของจีนหยุดกิจกรรมท่องเที่ยวเป็นระยะเวลา 2 เดือน

ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรงแรม กลุ่มสายการบิน กลุ่มพาณิชย์ รวมไปถึงกลุ่มพลังงาน ถูกเทขายอย่างรุนแรงจากความกังวลผลกระทบด้านลบจากการที่นักท่องเที่ยวจีนลดลง

พรบ.งบประมาณล่าช้า

สส.เสียบบัตรแทนกัน ศาลฯสั่งโหวต พรบ.งบประมาณอีกครั้ง

ในการโหวต พรบ.งบประมาณประจำปี2563 ซึ่งพรบ.งบประมาณฯล่าช้ามาตั้งแต่ปลายปี2562 ส่งผลให้นักลงทุนมีความคาดหวังกับการอนุมัติงบประมาณดังกล่าวค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามได้เกิดเหตุการณ์ สส.เสียบบัตรแทนกัน ในการโหวต พรบ.งบประมาณฯ ส่งผลให้มีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน ถึงความล่าช้าของ พรบ.งบประมาณฯที่อาจจะยืดเยื้อออกไป

ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญได้มีการตัดสินให้ กระบวนการร่างพรบ.งบประมาณ2563 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนในประเทศ จึงตัดสินให้สภาผู้แทนราษฎรต้องมีการโหวตใหม่ในวาระ2และ3 ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้มีการกำหนดกรอบดำเนินการในวันที่13กุมภาพันธ์2563

ความเห็น

Corona Virus ระยะสั้นกระทบหนัก
แต่น่าจะฟื้นตัวเร็วกว่าที่คิด

สำหรับผลกระทบของโคโรน่าไวรัสต่อเศรฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก จะกระทบรุนแรงแค่ไหนขึ้นกับความยืดเยื้อ ซึ่งในแง่ของผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยตรง คือ "ภาคการท่องเที่ยว" โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประเมินว่าหากเหตุการณ์ยืดเยื้อถึง 3 เดือนอาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนลดลงกว่า 1.89 ล้านคน หรือ 70% ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมด ซึ่งทำให้ไทยอาจเสียรายได้จากการท่องเที่ยวไปกว่า 94,500 ล้านบาท

ในความเห็นของทางเรามองว่าผลกระทบจากCorona Virusอาจน้อยกว่าที่คาด เพราะในปัจจุบันยังไม่พบการแพร่ระบาดในวงกว้างนอกประเทศจีน ซึ่งหากมองในแง่สถิติ จะพบว่าอัตราการแพร่เชื้อ เริ่มมีอัตราเร่งที่น้อยลง(แนะนำให้ดูChartในมุมมองแบบLog Scale) อีกทั้ง อัตราการเสียชีวิตล่าสุดวันที่12กุมภาพันธ์ อยู่ที่2.48% ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีนมีเพียงแค่ 2 ราย(ฟิลิปปินส์1ราย+ฮ่องกง1ราย) เท่านั้น

ผลกระทบจากCorona Virus เป็นผลกระทบระยะสั้นเพียงครั้งเดียว
จึงเป็นโอกาสการเข้าลงทุนระยะยาว

หากมองในแง่ของผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ประเทศจีนปัจจุบันมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยขนาดเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนของเศรษฐกิจโลกถึง 17% การที่นักลงทุนทั่วโลกขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง จึงไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจ

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นผลกระทบเพียงแค่ครั้งเดียว(One-time Event) หากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เร็ว Allfinnเชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว

Trump พยายามประนีประนอมกับ Iran
ส่งผลให้ความเสี่ยงในเชิงGeo-politic Riskลดลง

จากเหตุการณ์การสังหารนายพลกอเซ็ม โซไลมานี ของอิหร่าน ถึงแม้ว่าทางอิหร่านจะมีการยิงมิสไซล์โจมตีฐานทัพในอิรักเพื่อเป็นการตอบโต้ในช่วงวันที่ 8 มกราคม 2563ที่ผ่านมา ล่าสุดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐได้ออกมาแถลงว่ามีทหารสหรัฐได้รับบาดเจ็บทางสมองกว่า100ราย

อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีทรัมป์ยังพยายามผ่อนสถานการณ์ให้ดูเบาลง โดยระบุว่า "เป็นเพียงอาการปวดศีรษะ หรืออาการอื่นๆ ที่ไม่ได้ร้ายแรงมายมายเท่าใด" ซึ่งท่าทีดังกล่าวของโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงให้เห็นถึงความพยายามประนีประนอมความขัดแย้งในทางสงครามลง และเลือกที่จะตอบโต้อิหร่านผ่านการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจแทนการใช้ความรุนแรง ส่งผลให้ความเสี่ยงในเชิงGeo-politic Risk ลดลง

เศรษฐกิจไทย ฝากความหวังไว้ที่
"พรบ.งบประมาณ"

สำหรับเศรษฐกิจไทยที่ขาดตัวขับเคลื่อนเศรษกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคภายในประเทศที่ตึงตัวจากภาวะหนี้สินภาคครัวเรือน การลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัว การส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า รวมไปถึงภาคท่องเที่ยวที่รับรับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า ทำให้ความหวังเดียวที่เหลืออยู่ คือ พรบ.งบประมาณประจำปี2563 ซึ่งล่าช้ามากว่า5เดือน(จากปกติจะต้องอนุมัติภายในเดือนตุลาคมของทุกปี) ล่าสุดผลกระทบของ พ.ร.บ.งบประมาณที่ล่าช้า ส่งผลให้

• ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ1.0% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ
• ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญใช้เหตุผลเรื่อง "เหตุจำเป็นเร่งด่วนในประเทศ" ตัดสินให้พรบ.งบประมาณทั้งฉบับไม่ผิดรัฐธรรมนูญ แต่ต้องโหวตใหม่ในวาระ2และ3

ซึ่งรัฐสภาได้กำหนดให้มีการประชุมสภาฯ เป็นนัดพิเศษในวันที่ 13 ก.พ. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ในวาระสองและวาระสาม เพื่อให้ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 ผ่านสภาฯได้เร็วที่สุด

แนะนำให้นักลงทุน เพิ่มพอร์ตการลงทุนระยะกลาง-ยาว

ในแง่กลยุทธ์การลงทุน Allfinnแนะนำให้นักลงทุน เพิ่มพอร์ตการลงทุนในระยะกลางถึงยาว จากเหตุผลเรื่อง

• ความเสี่ยงเชิงGeo-Politic Riskที่ลดลง
• ความรุนแรงของไวรัสโคโรน่าที่น้อยกว่าคาด
• การประชุมสภา เพื่ออนุมัติ พ.ร.บ.งบประมาณ

โดยนักวางแผนการเงินจะแนะนำลูกค้าเป็นรายบุคคลถึงสัดส่วนของการทุนที่ควรจะลงทุนเพิ่ม ทั้งนี้หากท่านสนใจรับบริการของเรา สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.allfinn.net/private_wealth/